โรคต้อหิน

วันที่เผยแพร่ 10 พ.ค. 2565

อาการโรคต้อหิน , การผ่าตัดโรคต้อหิน , การรักษาโรคต้อหิน , โรคต้อหิน , ต้อหิน




โรคต้อหินมุมปิด และ ต้อหินมุมเปิด ทำให้การมองเห็นค่อยๆ ลดลง แต่ไม่ว่าต้อหินประเภทไหนก็ตาม สุดท้ายต้อหินจะทำให้สูญเสียการมองเห็น การดูแลรักษาดวงตาที่ถูกต้องจะช่วยยืดระยะเวลาหรือช่วยคงสภาพการมองเห็นให้ได้นานที่สุด เป็นเรื่องยากที่เราจะรู้ได้ด้วยตัวเอง ว่าเราเป็นโรคต้อหินหรือไม่ เว้นแต่ว่าการมองเห็นเริ่มถดถอยลง สำหรับโรคต้อหินนั้น สามารถตรวจพบได้จากการตรวจสุขภาพตา ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องกำหนดจำนวนครั้งการตรวจสุขภาพตามากนัก แต่ให้เคร่งครัดการฝึกสังเกตสัญญาณเริ่มต้นของโรคต้อหินแทน จากข้อมูลงานวิจัยพบว่า สัญญาณเริ่มแรกของผู้ที่เป็นโรคต้อหิน ไม่ใช่สูญเสียการมองเห็น แต่เป็นการมองภาพแล้วเบลอ ไม่ชัด หรือต้องขอเพิ่มแสงเพื่อให้มองเห็นชัดขึ้น ดังภาพที่อยู่ด้านล่าง

ภาพที่มองเห็นผ่านสายตาของผู้ที่เป็นโรคต้อหิน

 

  ผู้ที่เป็นโรคต้อหินส่วนใหญ่ อาการแรกเริ่มคือ รู้สึกว่าสีของภาพแตกต่างไปจากเดิม และระบุสีที่เห็นได้ยาก

 

 

 ระยะถัดไปจะเริ่มเห็นมุมมองของภาพแคบลง มองเห็นมุมภาพรอบนอกเป็นสีจางลงหรือเป็นสีดำ

 

 

  และสุดท้ายเมื่อเริ่มรู้สึกว่าการมองเห็นแย่ลงเรื่อยๆ โรคจะพัฒนาจนสูญเสียการมองเห็นบริเวณตรงกลางของภาพกว้างขึ้นเรื่อยๆ

 

  อาการมองเห็นทั้งหมดที่เกิดขึ้น หากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจสูญเสียการมองเห็นภาพไปทั้งหมดและไม่สามารถรักษาให้กลับมาเป็นดังเดิมได้อีก แต่หากปฏิบัติตามการดูแลอย่างเคร่งครัด อาจชะลออาการของโรคก่อนจะสูญเสียการมองเห็นไปทั้งหมด

1. หยอดตาเป็นประจำตามแพทย์สั่ง ยาหยอดตา เป็นขั้นแรกของการชะลอโรคนี้ ยาหยอดตาจะช่วยให้ของเหลวต่างๆ ในตาสามารถระบายออกไปได้ จึงทำให้ความดันในลูกตาลดลงความสม่ำเสมอในการหยอดตาตามใบสั่งแพทย์คือปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อประสิทธิภาพการรักษา

2. รับประทานยาตามแพทย์สั่ง ไม่ว่าจะเป็นยาที่ช่วยลดความดันในลูกตา หรือยาที่ช่วยปรับการทำงานของเส้นประสาทในตาก็ตาม

3. การผ่าตัด การผ่าตัดตาเพื่อชะลอโรคต้อหิน เป็นการใช้แสงเลเซอร์ลงไปที่ดวงตาเพื่อระบายของเหลวในดวงตา และทำให้ความดันในลูกตาลดลง ถึงแม้ว่าการผ่าตัดจะค่อนข้างให้ผลดีในการชะลอโรค แต่ก็คงอยู่ได้เพียงชั่วคราวประมาณ 10 ปีเท่านั้น ดวงตาก็อาจจะกลับมามองมืดลงได้อีก